วันอาทิตย์ที่ 6 มีนาคม พ.ศ. 2559

เส้นทางสันติภาพของฉันเริ่มต้นเมื่อปีพ.ศ. 2539 ตอนอายุ 17 ปี หลังจากผิดหวังจากการสอบเอ็นทร๊านซ์เข้ามหาวิทยาลัย และปัญหาเศรษฐกิจของครอบครัว ที่ทำให้ฉันต้องหยุดการเรียนต่อในชั้นอุดมศึกษาไว้โดยไม่มีกำหนด ช่วงเวลาอันสับสนวุ่นวายใจนั้นเอง ฉันก็ได้มีโอกาสไปปฏิบัติธรรม ณ วัดพระธรรมกาย จ.ปทุมธานี และมีโอกาสได้ฟังธรรม จากหลวงพ่อธมฺมชโย เจ้าอาวาสวัดพระธรรมกาย คำสอนของท่านดังเข้าไปในใจของฉัน ท่านบอกให้คลายความผูกพันธ์ ปล่อยวางภาระกิจเครื่องกังวลทั้งหลาย ทำเสมือนอยู่คนเดียวในโลก ที่ไม่มีคน สัตว์ สิ่งของ และให้เอาใจมาหยุดตรงที่กลางท้อง อย่างสบายๆ หลวงพ่อธมฺมชโยบอกว่าการปฏิบัติธรรรมเป็นกิจที่จำเป็นที่สุด ที่เราจะต้องทำควบคู่ไปกับการทำมาหากินและภาระกิจอื่นๆ ทุกสิ่งในโลกนีี้ล้วนเกิดขึ้น ตั้้งอยู่ และดับไป ตามกฏไตรลักษณ์ อย่าไปเสียเวลาพร่ำเพ้อพิไรรำพรรณกับสิ่งอันไม่เป็นแก่นสารของชีวิต เราเกิดมาสร้างบารมี เพื่อสั่งสมบุญเป็นเสบียงติดไปในภพเบื้องหน้า หลวงพ่อธมฺมชโยท่านมีกระแสเสียงที่ชุ่มเย็น เปี่ยมไปด้วยความเมตตา ฉันน้อมใจตามเสียงของท่านไปด้วยใจที่เบาสบาย เวลาเหมือนติดปีกบิน ฉันไม่รู้ว่านั่งไปนานแค่ไหน แต่หลังจากเลิกปฏิบัติธรรมแล้ว ฉันพบว่าความกังวลต่างๆ ได้เบาบางจนหายไปจากใจของฉัน และฉันมีความรู้สึีกว่าปัญหาที่ฉ้นเจอนั้น ที่แท้เป็นเพียงเรื่องเล็กน้อย เหมือนฝุ่นในจักรวาล ความสุขและความสำเร็จต่างๆจะมีได้ก็ต่อเมื่อมีบุญเป็นฉากหลัง และบุญก็ไม่ได้เกิดขึ้นมาเอง แต่เราต้องสร้าง ด้วยการทำทาน รักษาศีล และเจริญภาวนา ฉันเหมือนมองเห็นแสงสว่างของชีวิต คำสอนของหลวงพ่อธมฺมชโยเปรียบเสมือนเข็มทิศนำทาง ฉันรู้ทันทีว่าฉันต้องส้ั่งสมบุญ เพราะบุญเท่านั้นจะเป็นที่พึ่ง เส้นทางสันติภาพของฉันได้เริ่มขึ้น ณ วันนั้น ที่วัดพระธรรมกาย ฉันเกิดกำลังใจมหาศาลที่จะทำความดีทั้งต่อตนเอง และผู้อื่นโดยเริ่มจากตัวฉันเองก่อน เพราะฉันต้องมีแสงสว่างในตัวเองก่อน จึงจะสามารถส่องนำทางผู้อื่นได้  ฉันพูดได้เต็มปากว่าหลวงพ่อธมฺมชโยคือแรงบันดาลใจที่สำคัญของฉัน ในตอนต่อไปฉันจะมาเล่าถึงเส้นทางสันติภาพ ที่ได้ขยายจากตัวฉันไปสู่บุคคลอื่น ทั้งในและต่างประเทศ และเป็นเส้นทางที่มีแต่ความรักและความปรารถนาดี/
มาออกเดินทางไปด้วยก้ันนะคะ...